ครั้งแรกที่ให้ผู้สวมใส่ได้ร่วมมือในการออกแบบเลนส์สำหรับการใช้งานของตนเอง ผ่านนวัตกรรมขั้นสูงล่าสุด (Insights Technology) บน iPad
ซึ่งคำนึงถึง 3 ปัจจัยเป็นสำคัญ คือ ความต้องการ, ลักษณะการใช้งาน, รวมถึงความคุ้นชินในการใช้งานของผู้สวมใส่ ทำให้มีโครงสร้างเลนส์มากกว่า 428,793,740 รูปแบบรองรับความต้องการเฉพาะของผู้ส่วมใส่
เรียกได้ว่าเป็นเลนส์แว่นตาโปรเกสซีฟเฉพาะบุคคลที่แท้จริง ทำให้ได้ภาพที่คมชัด สมจริง รู้สึกเป็นธรรมชาติ ทุกมุมมอง รอบทิศทาง
หมดปัญหาดวงตาทำงานหนัก ภาพซ้อนหรือเบลอ ผู้สวมใส่ใช้เวลาปรับตัวไม่นาน จึงไม่จำเป็นต้องก้มหรือเงยศีรษะ หรือถอดแว่นเข้าออกตลอดเวลาเพื่อปรับโฟกัสภาพ ทำให้ไม่เกิดอาการมึนศีรษะ หรือต้องหรี่ตาจนเสียบุคลิก
โดยที่เลนส์แต่ละชิ้นถูกคำนวณและออกแบบโดย Nikon Optical Design Engine (NODE) จากประเทศญี่ปุ่น ที่ตรวจวัดสายตาผ่านนวัตกรรมขั้นสูง (Insights Technology) นั่นคือ....
🌐 Aberration Filter Surface Generation 1 เทคโนโลยีที่ช่วยลดระดับภาพบิดเบือนได้ดีบริเวณด้านข้าง โดยสร้าง Filter Surface ที่ด้านหลังของเลนส์เพื่อไปหักล้างภาพบิดเบือนที่เกิดบนผิวหน้าในระดับจุดต่อจุดและแปรผันไปตามค่าสายตาที่สั่งตัดจริง ๆ
🌐 Aberration Filter Surface Generation 2 มีการพัฒนาปรับปรุงรูปทรงของเลนส์ในส่วนล่างจากเทคโนโลยี Filter Surface รุ่นที่ 2 ทำให้สามารถหักล้างภาพบิดเบือนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
🌐 Aberration Filter Surface Generation 3 เป็นการใช้เทคโนโลยีที่อาศัยหลักการสำคัญของการมองเห็นเข้ามาช่วยลดปัญหาภาพบิดเบี้ยวและภาพเบลอบริเวณด้านข้างของเลนส์โปรเกรสซีฟ
เเละการออกเเบบของเลนส์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคล Nikon Seemax Ultimate จะคำนึงถึง 3 ปัจจัยเป็นสำคัญ คือ ความต้องการ , ลักษณะการใช้งาน รวมถึง ความคุ้นชิน ในการใช้งานของผู้สวมใส่ ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน คือ
การใช้ Nikon Optical Design Engine ในการคำนวณและปรับแต่งเลนส์
เพื่อประสบการณ์การมองเห็นที่ดีที่สุด เลนส์ทุกชิ้นของ SeeMax Ultimate จะถูกส่งไปคิดคำนวณและปรับแต่งที่ประเทศญี่ปุ่นโดย Nikon Optical Design Engine
เทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของ Nikon ที่ได้รับการยอมรับระดับสากลในเรื่องของความแม่นยำ ทำให้ผู้สวมใส่ได้โครงสร้างเลนส์โปรเกรสซีฟที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับค่าสายตาของตัวเอง
การให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมในการออกแบบเลนส์ของตัวเองผ่านแอปพลิเคชันบน iPad (PAL Sensitivity Test)
ในการทดสอบความไวต่อภาพบิดเบือนของแต่ละคน ผลที่ได้คือความสบายตาและการมองเห็นที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด
การนำค่าสถิติเดิมหรือประวัติการสวมใส่แว่นมาช่วยในการออกแบบโครงสร้างเลนส์
เพื่อช่วยให้เราได้ปรับตัวกับเลนส์คู่ใหม่ได้ง่ายที่สุด โดยสองขั้นตอนหลังจะเป็นขั้นตอนที่เพิ่มมาสำหรับรุ่น Nikon SeeMax Ultimate with Sensitivity ซึ่งเมื่อคำนวณออกมาแล้วจะทำให้ได้โครงสร้างเลนส์มากกว่า 428,793,740 รูปแบบเลยทีเดียว
เพราะ....ORRA ใส่ใจในรายละเอียด
🔎 หากคุณกำลังมองหาร้านตัดเลนส์โปรเกรสซีฟดีๆ สักร้าน เราขอแนะนำคลินิกแว่นตาออร่า ศูนย์เลนส์โปรเกรสซีฟ ของเราค่ะ
เพราะเรามีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการวัดเลนส์โปรเกรสซีฟโดยตรง รวมถึงเครื่องมือสำหรับเลนส์โปรเกรสซีฟโดยเฉพาะที่ได้มาตรฐานระดับชั้นนำ
โดยช่วง Covid-19 แบบนี้แต่ละขั้นตอนจะมีการวัดแบบ Private เพื่อลูกค้าโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม และตรวจด้วยความละเอียด เพื่อให้เกิดความแม่นยำ
👉🏻 หากต้องการทราบว่าเรามีบริการตรวจสายตาอย่างละเอียดด้วยขั้นตอนอะไรบ้าง สามารถคลิกที่นี่ค่ะ
🔥 ตอนนี้เรามีโปรโมชั่นเลนส์โปรเกรสซีฟทุกแบรนด์ เริ่มต้นที่ 6,990฿ ค่ะ แบรนด์และรุ่นตามนี้เลยค่ะ...
✅ Nikon รุ่น Presio first
✅ Hoya รุ่น Dynamic summit
✅ Essilor รุ่น Essentials active
✅ Zeiss รุ่น Light D
🔥🔥 ถ้าลูกค้าจองตรวจใน line@ ลดเพิ่มอีก 1,000฿ เหลือ 5,990฿ และมีสิทธิ์ซื้อกรอบแว่น Titanium ในราคา 2,000฿ จากราคาปกติ 5,990฿
✍🏻 บทความที่เกี่ยวข้อง :
✍🏻 สนใจสอบถามได้ที่ :
☎️: 02-064-6665, 062-651-2365
LINE@ : @orra-od (ใส่เครื่องหมาย @นำหน้า)
Facebook : orraoptometrist
10 อันดับ 🏆 เลนส์โปรเกรสซีฟ ขายดีที่ ORRA ยี่ห้อไหนดี ? รุ่นไหนดี ? พร้อมราคา ? &
แว่นตาโปรเกรสซีฟ ราคา เท่าไหร่? ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมามีลูกค้าหลายๆ ท่าน ทักเข้ามาถามใน inbox และ line o
5 ขั้นตอนการเตรียมตัว ก่อนเข้าตัดเลนส์โปรเกรสซีฟ ยุคนี้ต้องบอกเลยว่าใคร ๆ ก็ต้องรู้จักเลนส์โปรเกรสซีฟท